องคมนตรีติดตามแผนการขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ









 องคมนตรีติดตามแผนการขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การบริหารจัดการน้ำที่เขื่อนอุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 27 ส.ค.2563 ที่เขื่อนอุบลรัตน์ อ.อุบลรัตน์ จ.ขอนแก่น นายอำพน กิตติอำพน องคมนตรี ในฐานะรองประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือไปประชุมติดตามการบริหารจัดการน้ำ ในลุ่มน้ำชีในสภาวะภัยแล้งและติดตามการเตรียมความพร้อมของส่วนราชการในการช่วยเหลือประชาชนในกรณีที่ประสบอุทกภัย โดยมีนายสมศักดิ์ จังตระกุล ผวจ.ขอนแก่น พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการบริหารจัดการน้ำ รายงานสถานการณ์ภายหลังจากที่ทางองคมนตรีและคณะได้เดินทางมาติดตามการบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำชีในสภาวะภัยแล้งเมื่อเดือน ม.ค.2563 โดยส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้คาดการณ์ว่าสถานการณ์น้ำในปีนี้จะดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา โดยคาดว่า ปริมาณน้ำฝนจะมีปริมาณใกล้เคียงกับค่าปกติ โดยอาจมีน้ำฝนตลอดทั้งปีน้อยกว่าเกณฑ์ปกติไม่เกินร้อยละ 5 ซึ่งจะช่วยให้ปริมาณน้ำในเขื่อนอุบลรัตน์มีปริมาณเก็บกักเพิ่มขึ้นถึง 800 ล้านลูกบาศก์เมตร ในช่วงปลายเดือน ส.ค. 2563 นั้น



จากการติดตามสภาพอากาศในช่วงฤดูฝนประจำปีนี้ พบว่าประเทศไทยได้รับผลกระทบ จากพายุฤดูร้อนซินลากูและร่องความกดอากาศต่ำที่พาดผ่านบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ของประเทศไทยในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ส่งผลให้มีฝนตกหนักในพื้นที่ภาคเหนือและภาตะวันออกเฉียงเหนือ

อย่างไรก็ตาม พบว่าปริมาณน้ำฝนสะสมในพื้นที่จังหวัดขอนแก่นยังคงต่ำกว่าเกณฑ์ปกติถึงร้อยละ 13 ประกอบกับ ภัยแล้งต่อเนื่องในช่วงปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีปริมาณน้ำน้อย โดยเฉพาะเขื่อนอุบลรัตน์ที่ปัจจุบันมีปริมาณน้ำเก็บกักเพียง 429 ล้านลูกบาศก์เมตร และมีปริมาณน้ำไหลเข้าสะสมตลอดทั้งปีเพียง 264 ล้านลูกบาศก์เมตร จากการรายงานของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และกรมชลประทาน ได้คาดการณ์ว่าในเดือนกันยายนจะมีน้าไหลเข้าเขื่อนอุบลรัตน์เป็นไปตามเกณฑ์ปกติ ซึ่งจะส่งผลให้ในปีนี้มีปริมาณน้ำเก็บกักเมื่อสิ้นสุดฤดูฝนรวมทั้งสิ้น 1,700 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 70 ของระดับเก็บกัก

ทั้งนี้ ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้คาดการณ์ว่าในเดือนกันยายนนี้ประเทศไทยจะได้รับอิทธิพลจาก ร่องความกดอากาศต่ำที่พาดผ่านประเทศไทยและพายุที่เกิดขึ้นในบริเวณทะเลจีนใต้ ซึ่งจะส่งผลให้มีฝนตกหนักใน ประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง และอาจส่งผลกระทบให้เกิดน้ำหลากเข้าท่วมในบางพื้นที่ได้ ดังนั้นส่วนราชการที่ เกี่ยวข้องจึงได้ดำเนินการพัฒนาและปรับปรุงโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่าง ๆ ตลอดแนวลุ่มแม่น้ำชี อาทิ การขุดลอกพื้นที่รับน้ำโครงการแก้มลิงตามแนวพระราชดำริ โครงการเครือข่ายอ่างเก็บน้ำ (อ่างพวง) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตลอดจนจัดเตรียมความพร้อมเพื่อให้แหล่งเก็บน้ำต่าง ๆ มีศักยภาพพร้อมในการรับน้ำ และสามารถให้ความช่วยเหลือประชาชนในกรณีที่เกิดอุทกภัยได้ทันท่วงที

ไม่มีความคิดเห็น

รูปภาพธีมโดย Roofoo. ขับเคลื่อนโดย Blogger.