บุกทลายขบวนการขนแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย
ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ประสานเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง
บุกทลายขบวนการขนแรงงานต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฏหมาย ช่วงสถานการณ์โควิด-19
ภายในป่าหญ้า ต.คลองนครเนื่องเขต อ.เมืองฉะเชิงเทรา
ได้ผู้ต้องหาชาวไทยซึ่งเป็นคนขับรถบรรทุกแรงงานจำนวน 5 คน
และแรงงานสัญชาติกัมพูชา จำนวน 88 คน
เวลา 12.30 น.
วันนี้ ( 11 ก.ค.63 ) ที่สถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทรา
พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร
ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
พร้อมเจ้าหน้าที่ทหาร กอ.รมน. ฝ่ายปกครองจังหวัดฉะเชิงเทรา
ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมขบวนการขนแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎมาย
ฝ่าฝืนมาตรการควบคุมโรคโควิด-19
ได้ผู้ต้องหาเป็นชายไทย จำนวน 5 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นคนขับรถบรรทุกแรงงานต่างด้าว
ประกอบด้วย นายชวลิต ผดุงเวช ,นายวิโรจน์
เขจรสาย ,นายสุดล วงค์สุพรรณ์,นายองอาจ
ทดหสี และนายณัฐพงษ์ ดอนสินพูล พร้อมของกลางรถยนต์จำนวน 5
คัน และแรงงานต่างด้าวสัญชาติกัมพูชา จำนวน 88 คน
พล.ต.อ.ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้อำนวยการศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ
เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ได้ทำการสืบสวนหาข่าว
ติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มบุคคลผู้กระทำความผิดตลอดมา
ต่อมาสืบเนื่องจากวิกฤตสถานการณ์โควิด-19
ซึ่งมีการแพร่ระบาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ทำให้รัฐบาลต้องกำหนดมาตรการ
ปิดด่านเข้าออกประเทศทั้งหมด
ซึ่งในเวลานี้ ทิศทางความต้องการในตลาดแรงงาน มีความต้องการมากขึ้น
เนื่องจากก่อนหน้านี้ แรงงานได้เดินทางกลับประเทศ
จึงมีการลักลอบขนคนงาน จากประเทศที่มีพรมแดนติดกับประเทศไทย
เพื่อเข้ามาทำงานตอบสนองความต้องการของตลาด ซึ่งเรื่องดังกล่าวรัฐบาลได้ตระหนักถึงสถานการณ์และเป็นห่วงว่าอาจเกิดการแพร่ระบาดของโรครอบสอง
ขึ้นมาจากกลุ่มแรงงานดังกล่าว
จึงได้กำชับให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งรัดปราบปรามขบวนการดังกล่าวอย่างเคร่งครัด
ซึ่งจากมาตรการดังกล่าว
กลุ่มขบวนการขนแรงงานต่างด้าว ได้ให้เอเย่นต์ชาวกัมพูชา ติดต่อแรงงานที่เคยทำงานในประเทศไทยแล้วอยากกลับมาทำอีก โดยต้องเสียคาหัวนำเข้าให้เอเย่นต์รายละ 3-4,000
บาท/ ต่อคน โดยใช้วิธีเดินเท้าตามแนวชายแดน ฝั่งปอยเปต จังหวัดบ็อนเตียย์เมียนเจ็ย
ระยะทางกว่า 50 กิโลเมตร มาโผล่ในฝั่งไทย แถว อ.ตาพระยา อ.อรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว และมีกลุ่มนายหน้าคนไทยมารอรับ
เพื่อลำเลียงแรงงานทั้งหมดมาเข้ามาพักไว้ที่เขตพื้นที่จังหวัดฉะเชิงทรา ก่อนจะกระจายไปส่งยังจุดต่างๆ
ในพื้นที่ชั้นใน โดยนายหน้าฝั่งไทย
จะว่าจ้างรถรับจ้างมารับแรงานเพื่อนำไปส่งตาม
จุดหมายปลาทางที่แรงานจะไปทำงาอีกชั้นหนึ่ง
เจ้าหน้าที่จึงได้วางแผนเข้าจับกุม โดยส่งคนไปซุ่มสังเกตุการณ์
ในเขตพื้นที่ ต.คลองนตรเนื่องเขต
อ.เมืองฉะเชิงเทรา จังหวัดฉะเชิงเทรา จนกระทั่งเวลาประมาณ 05.00
น.ของวันเดียวนี้ เจ้าหน้าที่สังเกตเห็นรถยนต์เป้าหมาย เข้ามาในบริเวณดังกล่าว
จึงได้สะกดรอยติดตาม เข้าไปในป่าพบกลุ่มผู้ต้องหา และแรงงานต่างด้าว เกือบ 100
ชีวิต จึงได้แสดงตัวเพื่อเข้าจับกุม
ก่อนควบคุมทั้งหมดมาทำการสอบสวนต่อยังสถานีตำรวจภูธรเมืองฉะเชิงเทรา
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้แจ้งข้อกล่าวหา ผู้ต้องหาชาวไทยทั้ง 5 ราย ว่า "ร่วมกัน" นำเข้าแรงงานต่างด้าว
เข้ามาในราชอาณาจักรโดยฝ่าฝืน พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ให้เข้าพัก
อาศัย ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ เพื่อให้คนต่างด้าวนั้น พ้นจากการจับกุม
และข้อหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉินควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่วนแรงงานต่างด้าวได้แจ้งข้อกล่าวหาว่า
"เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต
และมั่วสุมในลักษณะที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อโรค ตามข้อกำหนดในมาตรา 9 ฉบับที่
1 ข้อ 5 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
พ.ศ.2548
ไม่มีความคิดเห็น