รพ.ขอนแก่น ขอรับบริจาคเครื่องพ่นยาแบบพกพาผลิตจากวัสดุรีไซเคิล ด้วยขวด
รพ.ขอนแก่น
ขอรับบริจาคเครื่องพ่นยาแบบพกพาผลิตจากวัสดุรีไซเคิล ด้วยขวด,แก้วพลาสติกและแก้วกระดาษ
ทดแทนการพ่นยาแบบละอองฝอย ให้กับผู้ป่วยวันละกว่า 200
ราย ป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 อย่างเข้มงวด
เมื่อเวลา 08.30 น.
วันที่ 10 พ.ค.2563
ที่ อาคารรักษาผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ
รพ.ขอนแก่น นพ.สุรพันธ์
เจริญธัญรักษ์
อายุรแพทย์ระบบทางเดินหายใจ รพ.ขอนแก่น ทำการทดสอบระบบการพ่นยาที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล
ทดแทนการพ่นยาแบบละอองฝอย สำหรับการรักษาผู้ป่วยโรคระบบทางเดินหายใจ
โดยเครื่องพ่นยาดังกล่าวผลิตจากขวดน้ำดื่มและแก้วกระดาษที่ผ่านกระบวนการทำความสะอาดและติดตั้งระบบวาล์วควบคุมการพ่นยา
ตามมาตรฐานทางการแพทย์
เนื่องจากต้องนำมาใช้ในการรักษาผู้ป่วยที่ต้องรับยาด้วยการพ่น
เนื่องจากในขณะนี้กระบวนการการักษาผู้ป่วยของโรงพยาบาลทุกแห่ง
มีมติในการหลีกเลี่ยงการพ่นยาแบบละอองฝอย
ด้วยเครื่องที่ดื่มเคยใช้งานอยู่ในอาคารรักษาผู้ป่วยหรือห้องตรวจผู้ป่วย
เพื่อลดการเกิดละอองและการฟุ้งกระจายของสารคัดหลั่งตามแนวทางการรักษา
ควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
อย่างเข้มงวด
นพ.สุรพันธ์ เจริญธัญรักษ์ อายุรแพทย์ระบบทางเดินหายใจ รพ.ขอนแก่น
กล่าวว่า
ด้วยมาตรการทางการแพทย์ที่ต้องเข้มงวดในการรักษาผู้ป่วยในภาวะของการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
ทำให้ รพ.ฯทุกแห่งต้องหลีกเลี่ยงการพ่นยาแบบละอองฝอย
ในกลุ่มผู้ป่วยที่ต้องเข้ารับการพ่นยา ซึ่ง รพ.ขอนแก่น มีผู้ป่วยที่ต้องพ่นยาตามการรักษาด้วยโรคระบบทางเดินหายใจ
อยู่ที่ประมาณวันละ 200 ราย
ดังนั้นเมื่อระบบเครื่องที่ติดตั้งอยู่ในอาคารรักษาหรือห้องตรวจต้องยุติการรักษาในระยะนี้
ทำให้การพ่นยาให้กับผู้ป่วยก็ต้องปรับเปลี่ยนวิธีการมาใช้ในระบบการพ่นยาแบบพากพาแทน
แต่ด้วยเครื่องดังกล่าวที่ รพ.ฯมีอยู่จำกัด จึงได้หารือร่วมกันกับสภาวิชาชีพแพทย์
และตรวจสอบอุปกรณ์การพ่นยาที่สามารถผลิตขึ้นเองได้
จนกลายมาเป็นที่มาของเครื่องพ่นยาแบบพกพาที่ขณะนี้ รพ.ฯหลายแห่ง
นั้นนำวัสดุรีไซเคิลมาใช้ในการพ่นยาให้กับผู้ป่วยแล้ว
“ เครื่องพ่นยาแบบพกพานั้นขณะนี้
รพ.ฯได้ผลิตขึ้น 2 รูปแบบคือแบบที่มีระบบวาล์วเปิด-ปิด
คือการใช้ขวดน้ำดื่ม 600 มิลลิลิตร
มาตัดบริเวณก้นขวดออกในระดับความสูงประมาณ 10-15
ซม. เพื่อให้สามารถใส่แก้วกระดาษเข้าไปได้ โดยที่แก้วกระดาษนั้น
บริเวณก้นแก้วและด้านข้างของแก้วจะติดตั้งระบบวาล์วที่ทำกระดาษแข็งเพื่อให้เกิดระบบปิดและระบบเปิดขณะพ่นยา
โดยยาที่ใช้ในการรักษานั้นก็มีการปรับเปลี่ยนมาในรูปแบบขวดกดแทน
ขณะที่เครื่องพ่นยาแบบที่ 2
นั้นคือใช้ในกลุ่มที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ คือเครื่องพ่นแบบต่อตรง
ด้วยการนำแก้วพลาสติกที่มีความแข็ง มาเจาะรูตรงกันแก้วเพื่อให้ใส่ท่อกดของตัวยาได้
ขณะที่บริเวณปากแก้วก็มีการตกแต่งให้พอเหมาะกับใบหน้าหรือไม่ต้องตกแต่งก็ได้
ซึ่งระบบดังกล่าวนี้เป็นการพ่นตรงให้กับผู้ป่วยแบบไม่ต้องผ่านระบบวาล์ว”
นพ.สุรพันธ์ กล่าวต่ออีกว่า
ขวดน้ำที่นำมาใช้ขอให้ทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและนำไปตากแดดก่อนที่จะมาผลิต
ขณะที่แก้วกระดาษขอเป็นแก้วใหม่เท่านั้น
ขณะที่แก้วกาแฟหรือแก้วเครื่องดื่มที่จะนำมาผลิตนั้นก็จอให้มีการทำความสะอาดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อและนำไปตากแดดเช่นกันเพื่อความปลอดภัย
ซึ่งอุปกรณ์ดังกล่าวนี้นั้น รพ.ฯ ยังคงต้องการใช้ในการรักษาผู้ป่วยอีกเป็นจำนวนมาก
จึงขอให้ผู้มีจิตศรัทธาได้ร่วมกันผลิตจากวัสดุรีไซเคิลสำหรับการนำมารักษาผู้ป่วยในระยะนี้เพราะอุปกรณ์
1 ชิ้นนั้นจะมอบให้กับผู้ป่วย 1
ราย เพื่อเป็นอุปกรณ์ในการรักษาประจำตัวทดแทนการให้ยาแบบการพ่นละอองฝอย
ซึ่งขณะนี้ขั้นตอนการผลิตได้มีการเผยแพร่ในโลกโซเชียนมีเดียเพื่อให้การผลิตอุปกรณ์ดังกล่าวนั้นถูกต้อง
อย่างไรก็ตามยังคงมีอุปกรณ์อีก 1 ชิ้นที่ รพ.ฯต้องการ คือ
เครื่องควบคุมระบบการพ่นยา หรือ MDI Adapter ที่ผลิตจากพลาสติกในการที่จะใช้ต่อกับเครื่องช่วยหายใจ
ที่ รพ.ฯ ยังคงต้องการเป็นจำนวนมากเช่นกัน
##จักรพันธ์ นาทันริ ขอนแก่น 085-0017964
ไม่มีความคิดเห็น