ชลบุรี กล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายวิ่งฉกพระเครื่องรวมราคาเกือบ1ล้าน ใจกลางตลาดบ่อวิน

 

ชลบุรี กล้องวงจรปิดจับภาพคนร้ายวิ่งฉกพระเครื่องรวมราคาเกือบ1ล้าน ใจกลางตลาดบ่อวิน

เมื่อวันที่20 มีนาคม 2568 เวลา ประมาณ 14.00น. ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานจากนายบุญโฮม แสนอุบล อายุ58ปี อยู่บ้านเลขที่197 ม.7 ต.แวง อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร เจ้าของแผงพระเครื่องชมรมคนรักพระเครื่องในตลาดปากร่วม(บ่อวิน) ม.6 ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ว่าเมื่อวันที่18มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 13.00น.ได้มีชายอายุประมาณ25-30 ปีสวมชุดเสื้อและกางเกงขายาวสีดำสวมหมวกและหน้ากากสีดำ ขับขี่รถจักรยานยนต์รุ่น PCX สีขาว หน้ากากสีแดง ไม่สวมแผ่นป้ายทะเบียน ขับวนไปวนมาหลายรอบและ ขับรถมาจอดห่างจากร้านตนไปประมาณ 20เมตร แล้วเดินลงมาที่ร้านตนเองแล้วมาขอดูพระเครื่องเพื่อจะเช่าซื้อและสอบถามว่าตลาดพระมีพระรุ่นไหนที่กำลังนิยม ชายดังกล่าวกำลังมองพระเครื่องที่นายบุญโฮมวางไว้บนตู้พระ ขณะที่ตนเองกำลังไปหยิบที่วางอยู่บนโต๊ะโซฟาภายในร้าน เมื่อตนเองหันหลังกลับมาที่หน้าตู้พะรเครื่องก็พบว่าพระเครื่องของตนเองได้หายไป4องค์ คือสมเด็จบางขุนพรหม กรุเก่าราคา800,000บาท หลวงพ่อปานทรงหนุมารราคา30,000บาท หลวงพ่อปานทรงขี่นกราคา20,000บาท หลวงพ่อปานขี่ไก่หางพวงราคา100,000บาท และได้เห็นชายคนดังกล่าววิ่งหนีออกจากร้านของตนเองไปเพื่อที่จะไปขับรถจักรยานยนต์หลบหนี ซึ่งตนเองได้วิ่งตามไปติดๆและได้ตะโกนขอความช่วยเหลือชาวบ้านที่อยู่ในตลาดและตนเองเกือบจะจับคนร้ายได้แต่ตนเองกลับวิ่งล้มสะก่อน ก่อนที่คนร้ายขับหลบหนีไป ตนเองจึงได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่สภ.บ่อวิน กับร.ต.อ.ธัชกร นารานัทน์ญา เจ้าของคดี และได้ประสานงานไปยังพ.ต.อ. กฤศ ธิติทัศนะ ผกก.สภ.บ่อวิน เพื่อที่จะเร่งเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามโดยไวเนื่องจากว่ากล้องวงจรปิดที่อยู่บริเวณนั้นอาจจะหมดเวลาลง ซึ่งตนเองขอวิงวอนคนร้ายให้นำมาคืนอีกทั้งพระเครื่องชุดนี้ได้มีเซียนพระที่ปากน้ำสมุทรปราการได้จองเอาไว้  และตนเองยังจำน้ำเสียงและรูปร่างคนร้ายได้และตนเองจะไม่เอาโทษทางกฏหมายและตนเองเข้าใจว่าคนร้ายอาจจะมาชิงสร้อยคอทองคำของตนเองที่แขวนคอน้ำหนักประมาณ5บาทแต่เคราะห์ดีที่วันดังกล่าวตนเองได้เก็บไว้ที่บ้านแล้ว

 

 

เมื่อวันที่20 มีนาคม 2568 เวลา ประมาณ 14.00น. ผู้สื่อข่าวได้รับรายงานจากนายบุญโฮม แสนอุบล อายุ58ปี อยู่บ้านเลขที่197 ม.7 ต.แวง อ.สว่างแดนดิน จ.สกลนคร เจ้าของแผงพระเครื่องชมรมคนรักพระเครื่องในตลาดปากร่วม(บ่อวิน) ม.6 ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ว่าเมื่อวันที่18มีนาคม 2568 เวลาประมาณ 13.00น.ได้มีชายอายุประมาณ25-30 ปีสวมชุดเสื้อและกางเกงขายาวสีดำสวมหมวกและหน้ากากสีดำ ขับขี่รถจักรยานยนต์รุ่น PCX สีขาว หน้ากากสีแดง ไม่สวมแผ่นป้ายทะเบียน ขับวนไปวนมาหลายรอบและ ขับรถมาจอดห่างจากร้านตนไปประมาณ 20เมตร แล้วเดินลงมาที่ร้านตนเองแล้วมาขอดูพระเครื่องเพื่อจะเช่าซื้อและสอบถามว่าตลาดพระมีพระรุ่นไหนที่กำลังนิยม ชายดังกล่าวกำลังมองพระเครื่องที่นายบุญโฮมวางไว้บนตู้พระ ขณะที่ตนเองกำลังไปหยิบที่วางอยู่บนโต๊ะโซฟาภายในร้าน เมื่อตนเองหันหลังกลับมาที่หน้าตู้พะรเครื่องก็พบว่าพระเครื่องของตนเองได้หายไป4องค์ คือสมเด็จบางขุนพรหม กรุเก่าราคา800,000บาท หลวงพ่อปานทรงหนุมารราคา30,000บาท หลวงพ่อปานทรงขี่นกราคา20,000บาท หลวงพ่อปานขี่ไก่หางพวงราคา100,000บาท และได้เห็นชายคนดังกล่าววิ่งหนีออกจากร้านของตนเองไปเพื่อที่จะไปขับรถจักรยานยนต์หลบหนี ซึ่งตนเองได้วิ่งตามไปติดๆและได้ตะโกนขอความช่วยเหลือชาวบ้านที่อยู่ในตลาดและตนเองเกือบจะจับคนร้ายได้แต่ตนเองกลับวิ่งล้มสะก่อน ก่อนที่คนร้ายขับหลบหนีไป ตนเองจึงได้ไปแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่สภ.บ่อวิน กับร.ต.อ.ธัชกร นารานัทน์ญา เจ้าของคดี และได้ประสานงานไปยังพ.ต.อ. กฤศ ธิติทัศนะ ผกก.สภ.บ่อวิน เพื่อที่จะเร่งเจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามโดยไวเนื่องจากว่ากล้องวงจรปิดที่อยู่บริเวณนั้นอาจจะหมดเวลาลง ซึ่งตนเองขอวิงวอนคนร้ายให้นำมาคืนอีกทั้งพระเครื่องชุดนี้ได้มีเซียนพระที่ปากน้ำสมุทรปราการได้จองเอาไว้  และตนเองยังจำน้ำเสียงและรูปร่างคนร้ายได้และตนเองจะไม่เอาโทษทางกฏหมายและตนเองเข้าใจว่าคนร้ายอาจจะมาชิงสร้อยคอทองคำของตนเองที่แขวนคอน้ำหนักประมาณ5บาทแต่เคราะห์ดีที่วันดังกล่าวตนเองได้เก็บไว้ที่บ้านแล้ว