วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2567

ก้าวหน้าสู่ปีที่ 3 Gulf MTP / ท่าเรือมาบตาพุด เฟส 3 ร่วมกับ กลุ่มประมงพื้นบ้าน ฟื้นฟูป่าชายเลน ( ด้วยนวัตกรรมจุลินทรีย์ชีวภาพ ) ประสบผลสำเร็จสูง อัตรารอดกว่า 90 % เติบโตแข็งแรงอย่างมาก





























 

ก้าวหน้าสู่ปีที่ 3   Gulf MTP / ท่าเรือมาบตาพุด เฟส 3 ร่วมกับ กลุ่มประมงพื้นบ้าน ฟื้นฟูป่าชายเลน ( ด้วยนวัตกรรมจุลินทรีย์ชีวภาพ ) ประสบผลสำเร็จสูง อัตรารอดกว่า 90 % เติบโตแข็งแรงอย่างมาก

  ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้า โครงการฟื้นฟูป่าชายเลน จังหวัดระยอง ของ บริษัทกัลฟ์ เอ็มทีพี แอลเอ็นจี เทอร์มินอล จำกัด (Gulf MTP)  โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ( ประกอบด้วย สำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด (สทร ) บริษัท อิตาเลี่ยนไทยดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด(มหาชน)(ITD)  และ บริษัท PMSC )  ร่วมกับ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มประมงเรือเล็กหาดสุชาดา  เทศบาลตำบลเนินพระ อ.เมืองระยอง  จังหวัดระยอง  ซึ่งโครงการฯมีนโยบาย การอนุรักษ์ฟื้นฟูสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตชาวประมงพื้นบ้านระยอง ให้ความสำคัญแก่ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่สำคัญแห่งหนึ่งของเมืองระยอง คือ ผืนป่าชายเลนบริเวณเทศบาลตำบลเนินพระ ฯ ซึ่งมีความเสื่อมโทรมและบริเวณโดยรอบล้มหายตายไปจำนวนมาก  จึงได้จัดโครงการในการปลูกป่าเพิ่มเติมและฟื้นฟูป่าชายเลนที่เสื่อมโทรม ดังกล่าวขึ้น เริ่มต้นในปี 2565     สำหรับโครงการนี้ ไม่ได้เพียงแต่นำต้นกล้าไปปลูกเท่านั้นแล้วปล่อยตามธรรมชาติเท่านั้น   โครงการฯ / บริษัท  Gulf MTP  โดย  ดร.กฤษณ์ พงษ์เทพิน และ นายศุภฤกษ์ โสภณราพงษ์  ฝ่ายชุมชนสัมพันธ์ ฯ  ส่งเสริมความร่วมมือกับ “ วิสาหกิจชุมชนกลุ่มประมงเรือเล็กหาดสุชาดา “ นำโดย นายลำเพย แว่วเสียง ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มประมงเรือเล็กหาดสุชาดา   และ เทศบาลตำบลเนินพระ ฯ นำโดย นายบุญธรรม ใยกล้า นายกเทศมนตรี ฯ  โดยฐานแนวคิด กระบวนการทำงานบนองค์ความรู้เกี่ยวกับ  “ นวัตกรรมจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ (Effective Microorganism)”   การจัดการด้านฐานเศรษฐกิจชีวภาพ (Bio-Based Economy ) และ แนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน ( Circular Economy) และ สร้างกลไกการทำงานร่วมมือกับชุมชนและองค์กรท้องถิ่น ในการดำเนินงานต่อเนื่อง

                   เริ่มดำเนินงาน ปี 2565 โดยจัดอบรมให้ความรู้ ด้าน “ นวัตกรรมจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพ ” แก่สมาชิกกลุ่มวิสาหกิจกลุ่มประมงเรือเล็กหาดสุชาดา และ จัดตั้ง “ ศูนย์เรียนรู้และธนาคารจุลินทรีย์ “  หลังจากนั้นส่งเสริมชุมชนได้นำเศษปลาก้างปลามาผลิตเป็น ฮอล์โมนและ ปุ๋ยน้ำชีวภาพ ปุ๋ยหมัก และ จุลินทรีย์ก้อน (EM Ball ) ผลิตภัณฑ์ต่างๆ ใช้สามารถในการเกษตร ปศุสัตว์ และครัวเรือน ฯลฯ สิ่งสำคัญ คือ การผลิต ออล์โมนพืช  ปุ๋ยน้ำชีวภาพ ปุ๋ยหมัก และ จุลินทรีย์ก้อน (EM Ball ) ใช้ในการปรับสภาพน้ำ สภาพดิน และใช้เสริมธาตุอาหารต้นกล้าที่ปลูกใหม่ บริเวณแปลงปลูกป่าชายเลนที่เสื่อมโทรม ที่โครงการจะพื้นฟู จำนวน 3  จำนวน 3 แปลง โดย  แปลงที่ 1 ปลูกต้นกล้า เพิ่ม ประมาณ 1,000 ต้น (ปี 2565)   โดยใช้จุลินทรียฯ ในการปรับสภาพพื้นที่ น้ำ และ ดิน ก่อนประมาณ 1 เดือน และ นำพนักงาน ชาวประมง เจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลเนินพระฯ ร่วมกันปลูกป่าชายเลน และ จัดบทบาทหน้าที่ให้กลุ่มประมงพื้นบ้านหาดสุชาดาติดตามดูแลอย่างต่อเนื่อง ร่วมกับนักส่งเสริมจากบริษัท Gulf MTP ติดตามและใส่ปุ๋ย โยนจุลินทรีย์ก้อน/อีเอ็มบอล เป็นระยะๆ ทุก 3 - 4 เดือน / ปี   เริ่มต้นปลูกจากต้นกล้าสูงประมาณ 20 – 35  หลังจากผ่านไป 1 ปี พบว่า มีอัตรการรอดสูงมาก กว่า  80-90 %   มีอัตราเติบโตใบเขียว รากหงอกแข็งแรง สูงเฉลี่ย 80-120 เซ็นติเมตร เติบโตเร็วพอสมควรเลยทีเดียว  ต่อมาในปีที่ 2 -3 ปลูกเพิ่มอีกกว่า 2,000 ต้น รวมกว่า  3,000  ต้น    ล่าสุด การติดตามผลปีที่  3 (ปี 2567)  พบว่า ต้นกล้าที่ปลูก อัตราการรอด กว่า 90 %  เติบโตแข็งแรงสูงท่วมหัวแล้ว สูงกว่า 150-200 เซ็นติเมตรเลย มีการแตกแขนงรากที่แข็งแรงแทงลงสู่ดิน กิ่งก้านใบสมบูรณ์ ปัจจัยส่วนหนึ่งอันเป็นผลจากการใช้จุลินทรีย์ /ปุ๋ย ช่วยปรับสภาพน้ำความอุดมสมบูรณ์ของดิน การมีปุ๋ยเสริมการเติบโตมีธาตุอาหารมากกว่า การปลูกแล้วปล่อยตามธรรมชาติ และ สำคัญอีกกลไก คือ มีชุมชนที่ทำหน้าที่ ติดตามดูแล คอยตัดหญ้าเป็นช่วงๆ ไม่ปล่อยให้หญ้าสูงเกินต้นกล้าที่ปลูกเพราะมันจะแย่งอาหาร รวมทั้งกำจัดเถาวัลย์เปรียงซึ่งเป็นศัตรูพืชป่าชายเลนที่สำคัญตัวหนึ่ง มันจะมามารัดต้นกล้าและดูดกินอาหารจากต้อนกล้าให้ตายลงไป สิ่งเหล่านี้ประกอบกัน โครงการนี้จึงมีอัตราการตายน้อยและภาวะการเติบโตมากเป็นพิเศษหากเทียบกับการปลูกแล้วปล่อยตามธรรมชาติ หรือไม่มีการติดตามดูแลอย่างต่อเนื่องจนต้นกล้าโตเพียงพอยินต้นต่อไป 

            ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ติดตามด้วย เป็นอีกหนึ่งโครงการฯ ที่น่าสนใจมาก ในกลไกการทำงานและฐานความรู้ที่นำมาใช้ โดยการส่งเสริมจาก บริษัท กัลฟ์ เอ็มทีพี แอลเอ็นจี เทอร์มินอล จำกัด (Gulf MTP)  โครงการพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 กลไกความร่วมมือกับ กลุ่มประมงพื้นบ้าน และเทศบาลตำบลเนินพระฯ ดำเนินการมา เข้าปี ที่ 3 ก่อเกิดเป็นผลสำเร็จที่เป็นรูปธรรมในการฟื้นฟูป่าชายเลนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ต่างจากที่เคยคือการปลูกแล้วปล่อยให้เติบโตตามธรรมชาติ และผลที่เกิดขึ้น น่าจะก่อเกิดการเพิ่มพื้นที่ป่าชายเลน พื้นที่สีเขียว แหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำ ที่เคยอุดมสมบูรณ์ของเมืองระยองให้คงอยู่สมบูรณ์ขึ้นได้ต่อไปอย่างมีประสิทธิภาพ อีกหนึ่งโมเดลที่น่าทึ่งในการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมป่าชายเลน และระยะยาวยังมีกลไกภาคท้องถิ่นและชุมชนในการดูแลรักษาอย่างต่อเนื่องต่อไป ตามแนวทางการพัฒนาที่ชุมชนเป็นฐานในการพัฒนา (Community Based development ) และยังสร้างให้ชุมชนชาวประมงมีอาชีพเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชนสร้างรายได้แก่ชุมชนด้วยจนถึงปัจจุบัน เป็นตัวอย่างที่ดีของ CSR  ภาคธุรกิจที่นำความรู้และกระบวนการจัดการร่วมกับชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะเป็นพื้นฐานแนวทางในการพัฒนาเศรษฐกิจชุมชน และ สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืนต่อไป (Sustainable development )

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น