สภ.หนองขามจัดพิธีวันตำรวจและทำบุญหอพระ
สภ.หนองขามจัดพิธีวันตำรวจและทำบุญหอพระ
วันนี้17 ตุลาคม 2566 ที่หน้าสภ.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พ.ต.อ.เกริกศิษฐ์ เนียมนัดฐ์ ผกก.สภ.หนองขาม ได้จัดพิธีวันตำรวจและทำบุญหอพระประดิษฐานหลวงพ่อโสธรขนาด30นิ้ว
ไว้ที่หอพระหน้าสภ.หนองขาม เพื่อให้ประชาชนทั่วไปและข้าราชการได้สักการะบูชา
โดยมีพระธรรมวชิราลังการ เจ้าอาวาสวัดบางพระเจ้าคณะจังหวัดชลบุรี
ได้เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ เจริญพระพุทธมนต์ โดยกิจการตำรวจได้กำเนิดขึ้นเป็นครั้งแรกในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ
โดยพระองค์ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราระเบียบการปกครองบ้านเมืองเป็น 4 เหล่า
เรียกว่า จตุสดมภ์ ได้แก่ เวียง วัง คลัง
นาและพร้อมกันนี้ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้มีการตำรวจขึ้น
โดยให้ขึ้นอยู่กับเวียง อันมีเจ้าพระยาจักรีศรีองครักษ์
สมุหนายก อัครมหาเสนาบดี เป็นผู้บังคับบัญชาทั้งนี้ กิจการตำรวจในขณะนั้น
แบ่งออกเป็น ตำรวจพระนครบาล ตำรวจภูธร ส่วนตำรวจหลวงให้ขึ้นอยู่กับวัง
มีเจ้าพระยาธรรมาธิบดีศรีรัตนมณเฑียรบาล เป็นผู้บังคับบัญชา และทรงโปรดเกล้าฯ
ให้ตราศักดินาของตำรวจไว้เป็นบรรทัดฐานในบทพระอัยการ ระบุตำแหน่งนายพลเรือน
เช่นเดียวกับข้าราชการฝ่ายอื่น นอกจากนี้
ยังมีเอกสารหลายชิ้นที่แสดงว่าบุคคลที่จะเป็นตำรวจได้นั้นต้องคัดเลือกจาก
ผู้ที่มีชาติกำเนิดสืบเชื้อสายมาจากตระกูลที่ได้ทำคุณความดีต่อชาติ ศาสนา
พระมหากษัตริย์ และต้องเป็นบุคคลที่ทรงวางพระราชหฤทัย
การบังคับบัญชาตำรวจก็ต้องขึ้นตรงต่อพระมหากษัตริย์โดยเฉพาะแต่พระองค์เดียว
ทำให้กิจการตำรวจในยุคนี้จะจัดตั้งเพื่อให้ทำหน้าที่ในวงจำกัด
และมิได้ขยายไปยังส่วนการปกครองทั่วประเทศเท่าไหร่นัก
แต่เมื่อเหตุการณ์บ้านเมืองเปลี่ยนแปลงไป มีการติดต่อกับชาวต่างประเทศมากขึ้น
กรมตำรวจจึงได้รับความสนใจที่จะปรับปรุงรูปแบบเพื่อให้เป็นไปตามแบบอย่าง
ประเทศตะวันตก โดยในปี พ.ศ. 2405 สมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ได้มีการปรับปรุงกิจการตำรวจครั้งสำคัญ กล่าวคือ มีการจัดตั้งกองตำรวจขึ้นเป็นครั้งแรกตามแบบอย่างยุโรป
เรียกว่า กองโปลิศ โดย จ้างชาวมลายูและชาวอินเดียเป็นตำรวจ เรียกว่า คอนสเตเปิล
โดยให้มีหน้าที่รักษาการณ์แต่ในเขตกรุงเทพมหานครชั้นใน
และขึ้นอยู่กับสังกัดกรมพระนครบาลต่อมาในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้มีการปรับปรุงกองโปลิศ
และจัดตั้งตำรวจภูธรขึ้นเป็นทหารโปลิศ ในปี พ.ศ. 2419 เพื่อให้เป็นกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อยในส่วนภูมิภาค และให้สามารถปฏิบัติการทางทหารได้ด้วย
โดยได้ว่าจ้างนาย G. Schau ชาวเดนมาร์ก
เป็นผู้วางโครงการถัดมาในปี พ.ศ. 2420 กองทหารโปลิศได้เปลี่ยนชื่อมาเป็นกรมกองตระเวนหัวเมือง
และได้มีการจัดตั้งกรมตำรวจภูธรขึ้นแทนกรมกองตระเวนหัวเมือง ในปี พ.ศ. 2440 และทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ
แต่ตั้งให้ พลตรี พระยาวาสุเทพ (G. Schau) เป็นเจ้ากรมตำรวจภูธร
และได้มีการขยายกิจการตำรวจไปยังหน่วยการปกครองส่วนภูมิภาคตามลำดับโดยกิจการตำรวจในยุคนี้ขึ้นอยู่กับ
2 กระทรวง
คือ กรมพลตระเวน หรือ ตำรวจนครบาล ขึ้นอยู่กับกระทรวงพระนครบาล
ส่วนกรมตำรวจภูธรขึ้นอยู่กับกระทรวงมหาดไทยต่อมาในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
ได้มีการรวบรวมกิจการตำรวจมาเป็นกรมเดียวกัน เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม
พ.ศ. 2458 เรียกว่า
กรมตำรวจภูธรและกรมพลตระเวน และในปลายปีได้เปลี่ยนเป็นกรมตำรวจภูธร
และกรมตำรวจนครบาล และยกฐานะของเจ้ากรมขึ้นอยู่กับกระทรวงมหาดไทย ในปี พ.ศ. 2465 ได้มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้รวมกระทรวงมหาดไทยกับกระทรวงพระนครบาลเป็นกระทรวงเดียวกัน เรียกว่า กระทรวงมหาดไทย
กรมตำรวจภูธรและกรมตำรวจนครบาล จึงโอนมาขึ้นอยู่กับกระทรวงมหาดไทยต่อมาในปี พ.ศ. 2469 กรมตำรวจภูธรและกรมตำรวจนครบาลได้เปลี่ยนชื่อเป็นกรมตำรวจภูธร
และกรมตำรวจนครบาลได้เปลี่ยนชื่อเป็นกรมตำรวจภูธร แต่ยังคงแบ่งตำรวจออกเป็น 2 ประเภท
คือ ตำรวจที่จับกุมโจรผู้ร้าย
ไต่สวนทำสำนวนฟ้องศาลโปลิศสภาโดยตรง เรียกว่า ตำรวจนครบาล
ส่วนตำรวจที่ทำการจับกุมผู้ร้ายได้แล้ว
ส่งให้อำเภอไต่สวนทำสำนวนให้อัยการประจำจังหวัดนั้น ๆ เรียกว่า ตำรวจภูธร กระทั่งในปี
พ.ศ. 2560 พลตำรวจเอกจักรทิพย์
ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ณ ขณะนั้น ได้มีคำสั่งเปลี่ยนแปลง
โดยให้ถือเอาวันที่ 17 ตุลาคม ของทุกปีเป็น “วันตำรวจ”
ซึ่งตรงกับวันสถาปนาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2541 เนื่องจากวันที่
13 ตุลาคม
ได้ตรงกับวันคล้ายวันสวรรคตของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช
บรมนาถบพิตร จึงเปลี่ยนแปลง
เพื่อเป็นการแสดงความเคารพเทิดทูนพระองค์ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ไม่มีความคิดเห็น