วัดเขาตะแบก เปิดสะพานแห่งใหม่-หล่อหลวงพ่อโสธร แห่งใหม่จังหวัดชลบุรี
วัดเขาตะแบก
เปิดสะพานแห่งใหม่-หล่อหลวงพ่อโสธร แห่งใหม่จังหวัดชลบุรี
วันที่ 5 ธ.ค.63 ที่วัดเขาตะแบก ต.หนองขาม อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี พระครูปริยัติกิจ
เจ้าคณะอำเภอศรีราชา เจ้าอาวาสวัดเขาพุทธโคดม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ นางสายภิญย์
สิชฌนุกฤษฏ์ ผู้อำนวยการสำนักพระพุทธศาสนาจังหวัดชลบุรี ได้เป็นประธานกล่าวเปิดเปิดสะพานแห่งใหม่และหล่อพระพุทธโสธร
ที่ทางวัดเขาตะแบกจัดสร้างขี้นตามโครงการวัดอุทยานการท่องเที่ยวในเชิงธรรมชาติ
ของกรมศาสนา
โดยเตรียมความพร้อมแบ่งแยกหน้าที่กันในวันเปิดสะพานอย่างเป็นทางการในเวลา08.30
น.ของวันที่ 5 ธันวาคม 2563 โดยสะพาน มีความสูงจากพื้นบนเขา 25 เมตร กระจกหนา
50 มิลลิเมตร
หน้ากว้าง 4 เมตร ยาว 50 เมตร รับน้ำหนักได้ 1 ตารางเมตรต่อ 1,200
กิโลกรัม ค่าเข้าชมสะพาน ท่านละ 40 บาท รับผู้เข้าชมรอบละ 100 คน เข้าชมได้นานรอบละ 30 นาที
ซึ่งทางวัดเขาตะแบก มีการจัดเก็บค่าขึ้นสะพานกระจกชมธรรมชาติโดยมีวัตถุประสงค์ คือ
1.เพื่อจัดสร้างองค์พระพุทธโสธรทองเหลืองที่ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออก
หน้าตัก 14 เมตร สูง 33 เมตร
1.1 หลังจากสร้างองค์พระพุทธโสธรเสร็จแล้ว
ทางวัดอาจจะเปิดให้เข้าชมฟรี
1.2 พระภิกษุ แม่ชี สามเณร เด็กและเยาวชนที่มีความสูงไม่เกิน 120 เซนติเมตร
เข้าชมฟรี
2.เพื่อเป็นค่าจ้างพนักงาน
ดูแลความสะอาด ดูแลระบบ ดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวรวมถึงซื้อน้ำยาเช็ดกระจก
3.ค่าจ้างซักถุงเท้า
ที่สวมใส่ขณะเดินบนสะพานกระจกเพื่อไม่ให้ตัวกระจกเกิดความเสียหาย
จากเศษหินหรือวัสดุเนื้อแข็งที่ติดกับรองเท้าระหว่างทางเดินสะพานกระจก
4.ค่าดูแลรักษาโครงสร้างสะพานกระจก
อีกทั้งค่าน้ำค่าไฟของทางวัด และทางวัดเขาตะแบก ได้ดำเนินการขออนุญาตจากกรมป่าไม้เพื่อใช้พื้นที่ในการสร้างพระวิหารสะพานกระจก
ในโครงการวัดอุทยานการท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ จำนวน 15 ไร่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ขณะนี้อยู่ในระหว่างเจ้าหน้าที่ป่าไม้ออกมารังวัดพื้นที่จริง โดยนายปพนพัชญ์ ณัฐดุลย์พานิช ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ต.หนองขาม ก็ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่อสม.
เจ้าหน้าที่สาธารณะสุขหนองขาม
เจ้าหน้าที่ราชสีห์พิทักษ์ราษฏร์เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19
รวมไปถึงการป้องกันอาชญากรรม
และดูแลความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวและผู้ที่จะมาร่วมเททองหล่อหลวงพ่อพุทธโสธร
นอกจากนี้แล้วทางด้านพระครูญาณประยุต เจ้าคณะตำบลบ่อวิน เจ้าอาวาสวัดเขาตะแบก
กล่าวว่าวัตถุประสงค์ในครั้งนี้ จัดทำเพื่อเป็นที่สักการบูชา
และศูนย์รวมจิตใจของพระพุทธศาสนิกชนโดยทั่วไป
เพื่อเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมศึกษาธรรมมะคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
และเป็นสถานที่รมณียสถาน และส่งเสริมโครงการวัดอุทยานท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ธรรมชาติให้คงอยู่ต่อไป..............
ไม่มีความคิดเห็น